บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นฟื้นสู่ความคึกคักเต็มรูปแบบ ดัชนีหุ้นพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง ภายหลังการประกาศรายชื่อคณะรัฐบาลชุดใหม่ กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้ามาไล่ซื้อหุ้นกันฝุ่นตลบ
แม้ว่าปัจจัยภายนอกจะเลวร้าย ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงฉาน เพราะความกังวลในภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ตลาดหุ้นไทยกลับปรับตัวขึ้นสวนทาง เมื่อวันพุธที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา โดยแม้ว่าเปิดการซื้อขายหุ้นภาคเช้า ดัชนีจะติดลบ แต่หลังประกาศโปรดเกล้าฯ รายชื่อ ครม.ชุดใหม่ หุ้นก็ดีดตัวขึ้น จนขึ้นมาบวกเมื่อเปิดการซื้อขาย
และการซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังซบเซา แต่ตลาดหุ้นไทย พุ่งทะยานขึ้นในทันทีที่เปิดตลาด เพราะแรงกระตุ้นจากการจัดตั้งรัฐบาล น ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” ซึ่งจะเร่งเดินเครื่องการทำงานทันที หลังแถลงนโยบายต่อสภา
นโยบายแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นถูกเตรียมไว้แล้ว และจะขับเคลื่อนทันที เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงนโยบาย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แทบทุกสำนักกำลังมองแนวโน้มตลาดหุ้นด้วยความสดใส เพราะมีข่าวดีสนับสนุนหลายด้าน โดยการเมืองกลับมานิ่ง รัฐบาลชุดใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กองทุนวายุภักดิ์ วงเงินไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท จะเริ่มขายหน่วยลงทุนประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ และเริ่มนำเงินลงทุนในตลาดหุ้นวันที่ 1 ตุลาคมนี้
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนหรือ TESG จะก่อตั้งตามมาในช่วงปลายปี และจะมีเงินเข้ามาในตลาดหุ้นอีก 2-3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ในเดือนนี้ และธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้
สิ่งที่คาดหวังกันอีกประเด็นคือ การไหลกลับของเงินทุนจากต่างประเทศ เพราะเมื่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศนิ่ง น่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และก่อนหน้าที่ “นายเศรษฐา ทวีสิน” จะถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกฯ ต่างชาติเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้นเหมือนกัน
ปัจจัยภายในประเทศมีความราบรื่นมากขึ้น ข่าวดีๆ ที่จะหนุนให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวมีอยู่หลายประเด็น มีแต่ปัจจัยภายนอกที่ต้องเฝ้าระวัง ไม่ว่าสงครามระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล หรือตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเขย่าดาวโจนส์จนร่วงแรงติดต่อหลายวัน
กูรูหุ้นส่วนใหญ่ประเมินทิศทางหุ้นในช่วงปลายปีด้วยภาพที่สวยหรู เริ่มขยับปรับเป้าหมายดัชนีปลายปีสู่ระดับ 1ป500 จุดขึ้นไป เพราะมีปัจจัยกระตุ้นอยู่หลายด้าน
และตั้งแต่ปี 2566 ตลาดหุ้นไทยก็เติบโตต่ำกว่าตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะผลกระทบจากปัจจัยภายใน ทั้งการเมืองที่วุ่นวาย และเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างหนัก กำลังซื้อผู้บริโภคตกต่ำสุดขีด
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งเริ่มต้นด้วยดี เพราะมีปฏิกิริยาตอบรับในด้านบวกจากตลาดหุ้น ดัชนีพุ่งระเบิดเถิดเทิง และคาดกันว่า หุ้นรอบนี้น่าจะตีฝ่าทะลุระดับ 1ป400 จุดขึ้นไปได้ แต่จะวิ่งยาวไปไกลจนถึง 1ป450 จุดม้วนเดียวหรือไม่ ต้องรอประเมินผลงานรัฐบาลใหม่อย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมี่ควรมองโลกสวยเกินไป และต้องระมัดระวังความผันผวนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยภายนอก หรือแม้แต่การไม่กลับมาของนักลงทุนต่างชาติ
ในจังหวะที่หุ้นปรับตัวขึ้นแรงๆ เป็นโอกาสดีที่จะหาจังหวะลดความเสี่ยง ระบายหุ้นออกบ้าง
การตอบรับรัฐบาลอุ๊งอิ๊งของตลาดหุ้นอาจสิ้นสุดระยะสั้นที่ระดับ 1,400 จุดเท่านั้น
