จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนว่า มีนายทุนเอาข้าวของและรถที่รับจำนำไปจอดสองฝั่งถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ล่าสุด รองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง พร้อมด้วยรอง สว.จร.สภ.เมืองพัทลุง และเจ้าหน้าที่เทศกิจ เข้าตรวจสอบบนถนนสายประชาร่วมใจ ต.คูหาสวรรค์ ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน
พบชาย อายุ 57 ปี ยอมรับว่ารถที่จอดอยู่สองฝั่งถนนสายดังกล่าวที่ชาวบ้านร้องเรียน เป็นของตนทั้งหมด ซื้อมาจอดไว้ เพราะชอบ และไม่ได้จอดอย่างเดียว สลับขับทุกคันที่จอด บางคันเจ้าของรถได้โอนลอยมาเป็นของตนแล้ว การจอดรถของตนไม่มีความผิด ทำไมจะจอดไม่ได้ในเมื่อถนนสายดังกล่าวเป็นถนนสาธารณะ ส่วนยางล้อรถ ผ้า ราวตากผ้าที่ตนมาวางไว้ก็พร้อมจะย้ายออกให้ แต่ก็ยืนว่าการกระทำของตนไม่ผิด หากใครมาลากหรือยกรถเขาไป ตนจะแจ้งความดำเนินคดี
ด้านชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า เดือดร้อนมาตลอดกับการกระทำของชายรายนี้ ร้องเรียนหลายครั้งก็ไม่เป็นผล เขาเป็นคนไม่มีน้ำใจ ไม่ได้ทำหน้าที่พลเมืองที่ดี เพื่อนบ้านสองหลังที่อยู่ติดกันก็ต้องย้ายหนี เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว รอบนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการตรวจสอบรถที่จอดอยู่ด้วยว่าเป็นของใคร และขอให้ตามหาเจ้าของรถด้วย
ด้าน ผกก.สภ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า หลังจากนี้หากชายรายนี้ยังดื้อเพ่ง ไม่ยอมเคลื่อนย้ายรถที่จอดกีดขวาง เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด พร้อมจะได้มีการตรวจสอบทะเบียนรถที่จอดไว้ทุกคัน เพื่อดูว่าใครเป็นเจ้าของพร้อมจะเรียกมาสอบปากคำ หากพบมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการรับจำนำ และให้อัตราดอกเบี้ยเกิน เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
