เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ ( 23 ส.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดูจุดที่เครื่องบินเล็กตกที่กำลังมีการนำเครื่องจักรกลงานหนัก (แบคโฮ) เข้าขุดล้วงค้นหาชิ้นส่วนต่างๆ ที่อยู่ใต้บ่อโคลนตม ซึ่งยังคงพบเศษชิ้นส่วนของผู้สูญหายที่อยู่ในสภาพเป็นเศษชิ้นเนื้อกระจายเป็นระยะ
พร้อมบอกว่า เครื่องบินลำดังกล่าว ได้ขออนุญาตขึ้นบินที่ระดับ 5 พันฟิต หรือประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากพื้นดิน เพราะเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ส่วนสาเหตุการตกจะต้องหาสาเหตุว่าเหตุใดจึงขาดการทรงตัว ทั้งที่เครื่องบินลำดังกล่าวน่าจะเป็นเครื่องที่ใช้บิน เพื่อรับส่งผู้โดยสารจากเกาะไม้ชี้ จ.ตราด มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ทุกวัน
“ นอกจากนี้ยังทราบว่านักบินนั้นเป็นนักบินระดับชั้นครู จึงต้องหาสาเหตุว่าขณะเครื่องตกนั้นเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่หรือไม่ หรือเป็นเพราะเครื่องยนต์ไม่ทำงาน จึงทำให้ปีกหรือหางเสือหลุด ส่วนยาที่พบอยู่ในกระเป๋าของนักบินนั้น ต้องรอให้ทางคุณหมอตรวจสอบด้วยเช่นกัน”
นายอนุทิน ยังเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าการตกของเครื่องบินเป็นไปในลักษณะของการร่วงลงมาสู่พื้น ไม่ใช่ร่อนลง เนื่องจากไม่พบว่าต้นไม้ บริเวณที่เกิดเหตุมีร่องรอยของการตัดเฉือน อย่างไรก็ตาม เครื่องบินลำเกิดเหตุมีประกันภัยบุคคลคนที่ 3 ดังนั้นผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะได้รับการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวอย่างแน่นอน
“ จากสภาพของเครื่องจะใช้คำว่าเก่าก็ไม่ได้ แต่จะใช้ตัวชี้วัดกันที่การซ่อมบำรุง ซึ่งเมื่อถึงเวลาครบชั่วโมงก็ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ แม้จะยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่ก็ตามจึงไม่ได้กังวลในจุดนี้ เนื่องจากช่างเครื่องจะไม่ยอมให้ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ครบชั่วโมงบินแล้วใช้งานต่อไป ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์กันว่า มีการซ่อมบำรุงครั้งล่าสุดเมื่อไรและมีการเปลี่ยนอะไรไปบ้าง “
ที่สำคัญตนเองไม่กังวลใจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่และมั่นใจว่าบริษัทผู้ประกอบการได้ทำตามกฎระเบียบการบินที่ค่อนข้างเข้มข้นอยู่แล้ว อีกทั้งเรื่องเกี่ยวกับเครื่องบินตก เป็นเรื่องสนใจของนานาชาติ โดยเฉพาะเครื่องบินยี่ห้อดังกล่าว ที่มีใช้กันอยู่ทั่วโลก
