‘นักบิน’ วิเคราะห์! เกิดเหตุเครื่องบินเล็ก บางปะกง มีความแปลกหลายสาเหตุ

เพจบันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบินได้ออกมาวิเคราะห์กรณีการเกิดเหตุเครื่องบินเล็ก บางปะกง เผย มีความแปลกหลายสาเหตุ ยันเป็นความเห็นส่วนตัวต้องรอข้อเท็จจริง หลังการสืบสวนเสร็จสิ้น พร้อมเผยนักบินตำแหน่งกัปตันเป็นครูการบินมากประสบการณ์ ขอแสดงความเสียใจ

จากกรณี เกิดเหตุเครื่องบินเล็ก ตกใกล้จุดพักรถมอเตอร์เวย์สาย 7 เขาดิน ในพื้นที่ ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้โดยสารและนักบินสูญหายไปจำนวน 9 คน เมื่อเวลา 15.15 น. ของวันที่ 22 ส.ค. และเมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานการค้นหาล่าสุดที่บริเวณจุดพบซากเครื่องบิน ซึ่งเป็นป่าแสมในพื้นที่ชุ่มน้ำใกล้แนวชายฝั่งแม่น้ำบางปะกงนั้น ไม่พบว่ามีห้องโดยสารติดมากับซากชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ตกลงกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นที่ในรัศมีกว่า 40 เมตร โดยซากที่พบในที่เกิดเหตุนั้นมีเพียงส่วนท้องและส่วนหางของตัวเครื่อง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั่น

วันนี้ (23 ส.ค.) เพจ“บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน“ ซึ่งเป็นนักบินได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า ”การตกของเครื่องบินในข่าวเมื่อวาน ภาพนี้ผมถ่ายเองน่าจะช่วงเวลาที่เครื่องบินตกพอดี จะเห็นได้ว่าทางทิศใต้ของสนามบินอากาศดีมาก ผมนั่งดูข่าวติดตามตลอดตั้งแต่บินลงมา 5 โมงเย็นจนสี่ทุ่มสำนักข่าวเลิก lives กันแล้วหลังจากเริ่มพบร่างผู้สูญหาย

นั่งลุ้นทุกนาทีให้เกิดปาฎิหาริย์ แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดจริงๆ การตกครั้งนี้ของเครื่องบินมีความแปลก อันนี้ในมุมมองผมนะครับ เพราะสาเหตุจริงๆ คงต้องรอการสอบสวนอย่างเป็นทางการ

แปลกยังไงบ้าง?

1.ขณะที่เครื่องบินบินขึ้นจากสนามบิน (ผมบินตามมาไม่น่าเกิน 10-15 นาทีก่อนหน้า) สภาพอากาศในขณะนั้น อากาศดีมากแทบจะไม่มีเมฆสักก้อน ฝนก็ไม่มี ดังนั้นสภาพอากาศไม่น่าจะมีผลกับเหตุการณ์นี้

2.เครื่องบินพึ่งไต่ระดับออกห่างจากสนามบินไปได้ ราวๆ10-20 ไมล์ ถือเข็มทิศบิน heading 100 ตามปกติของการบินออกจากสนามบิน ของเครื่องบินขนาดเล็กที่บินออกจากสุวรรณภูมิ ความสูงยังไม่มาก เพราะหอจะให้บินความสูงไม่เกิน 3,000 – 5,000 ฟุต ในช่วงแรก

3. เครื่องบิน แบบ cessna grand caravan เป็นเครื่องบินโดยสารใบพัดขนาดเล็ก อเนกประสงค์ นั่งได้ 12 ที่นั่ง(รวมนักบิน2ท่าน) ความเร็วเดินทางเฉลี่ย 120-150 knots/hr. คร่าวๆ ก็ราวๆ 220-300 kms ต่อชม. เครื่องบินรุ่นนี้ไม่มีข้อกฎหมายให้ต้องมีกล่องบันทึกการบิน

4.แต่เครื่องนี้น่าจะมีอุปกรณ์ ELT (Emergency Location Transmitter) อุปกรณ์ระบุตำแหน่ง หากเครื่องบินเกิดการตกกระแทกอย่างแรง เครื่องนี้จะทำการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออัตโนมัติ ไปยังคลื่นความถี่ต่างๆของวิทยุการบิน และระบุตำแหน่งการบิน เพื่อให้หน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ แต่ในขณะที่ผมบินผ่านบริเวณใกล้ๆ จุดตกไม่ได้ยินสัญญาณ sos อันนี้ คิดว่า elt อาจจะไม่ทำงาน

5.นักบินตำแหน่งกัปตันเป็นครูการบินมากประสบการณ์ และเป็นเจ้าของสายการบินนี้ด้วย และเป็นที่เคารพของผม และลูกศิษย์ทุกท่าน ความสามารถและประสบการณ์การบินไม่น่าจะเป็นที่สงสัย รวมถึงนักบินผู้ช่วยก็ทราบจากน้องๆหลายคนว่าเป็นน้องที่น่ารักเก่งและมีความรู้ความสามารถดีเยี่ยม

6.ลักษณะการตกของเครื่องจมลงไปในดินลึกกว่า 10 เมตรหมายถึงว่าเครื่องบินแทบจะตกในลักษณะเกือบจะทิ่มลงดิน 90 องศา ถึงทำให้เกิดความเสียหายได้ขนาดนั้น และจมลึกไปในดินขนาด 10 เมตร

แต่ความแปลกคือ จากคลิปเสียงที่นักข่าวไปขอกล้องวงจรปิดจากชาวบ้านใกล้เคียง มีเสียงเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่จากในกล้อง นั่นหมายถึงว่าเครื่องยนต์ยังมีกำลังงานอยู่ ก่อนที่จะตกแบบปักหัวทิ่มลงสู่พื้น ซึ่งขัดกับหลักการบินเป็นอย่างมาก เพราะเครื่องบินปีกบนแบบ grand caravan เป็นเครื่องที่ออกแบบมาให้ มี stability ที่สูงมาก แม้เครื่องยนต์ดับก็ยังสามารถร่อนเหมือนเครื่องร่อนไปได้อีกไกลพอสมควร ดังนั้นการตกแบบปักหัวจะเป็นไปได้ยากมาก

7.ถ้าเครื่องยนต์มีปัญหา เครื่อง c208 เป็นเครื่องยนต์เดี่ยว หากเครื่องยนต์เสียเครื่องบินยังสามารถปรับมุมใบพัดให้เป็นแบบลู่ลมเพื่อลดแรงต้าน และร่อนไปได้อีกระยะพอสมควร รวมถึงนักบินมีขั้นตอนการปฎิบัติที่ได้รับการฝึกมาเป็นปกติในเรื่องนี้อยู่แล้วในการฝึกเครื่องยนต์ดับ นักบินจะเลือกสถานที่ลงจอด แบบไม่ใช่พื้นที่ที่มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ หรือพื้นดินโคลน หรือเลน หรือป่าแบบนี้ ซึ่งแถวๆนั้นยังมีพื้นที่ให้นักบินเลือกลงได้อีกหลายแห่ง

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ เราจะทราบข้อเท็จจริงก็ต่อเมื่อการสืบสวนเสร็จสิ้น แต่จากที่ผมเล่าทุกท่านคงเห็นได้ว่าจากหลักฐาน กับหลักการมันค่อนข้างจะย้อนแยงกันไปหมด นี่คือสิ่งที่ผมเองก็ยังสงสัยครับ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวครู นักบิน และผู้สูญเสียด้วยครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *