สตรีผู้หนึ่งเก็บรวบรวมเก้าอี้ท่ามกลางกองปรักหักพังและกิ่งไม้ใบไม้ที่ร่วงหล่น ภายหลังพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” พัดกระหน่ำใส่เมืองฮาลอง ในจังหวัดกว๋างนิญ ของเวียดนามเมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ย.)
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามออกคำแถลงวันอาทิตย์ระบุว่า ไต้ฝุ่นยางิอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงเกี่ยวกับน้ำท่วม ดินถล่ม ขณะที่พายุลูกนี้ที่ถือว่ามีความแรงที่สุดที่เวียดนามเคยเผชิญมาในรอบหลายสิบปี กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก
ไต้ฝุ่นยางิ ขึ้นสู่ฝั่งเวียดนามเมื่อบ่ายวันเสาร์ด้วยกำลังลมแรงกว่า 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 4 เมตรบริเวณจังหวัดชายฝั่ง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับและบริการโทรคมนาคมหยุดชะงักเป็นวงกว้าง จึงทำให้การประเมินความเสียหายที่ชัดเจนทำได้ยากยิ่งขึ้น ข่าวบอกว่า เมืองหลวงฮานอยก็เจอปัญหาการจ่ายกระแสไฟฟ้าและบริการโทรคมนาหยุดชะงักไปเหมือนกัน นอกจากนั้น ลมพายุและฝนตกหนักยังทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ต้นไม้หลายพันต้นล้ม และบ้านเรือนมากมายได้รับความเสียหาย
ทางการเวียดนามแถลงโดยอ้างอิงรายงานเบื้องต้นว่า มีผู้เสียชีวิตจากยางิอย่างน้อย 3 คนในฮานอย เมืองที่มีประชากร 8.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิต 14 คนในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึง 4 คนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มในจังหวัดฮว่าบิ่ง ที่อยู่ห่างจากฮานอยไปทางใต้ราว 100 กม. หลังจากพายุลูกนี้ทำให้ฝนตกลงมาอย่างหนัก
สื่อของรัฐบาลเวียดนามรายงานว่า ผู้ขับขี่จักรยานยนต์วัย 53 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับในจังหวัดหายเสวือง ทางเหนือของประเทศ นอกจากนั้น ยังพบร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คนในทะเลใกล้เมืองฮาลอง ซึ่งมีผู้สูญหายในทะเลกว่า 10 คน และคาดว่า ปฏิบัติการกู้ภัยจะเริ่มต้นได้ในวันอาทิตย์เมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย
เวลาต่อมาในวันอาทิตย์ สื่อของรัฐรายงานว่า ยางิ เป็นเหตุทำให้ในเวียดนามมีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บอีก 176 คน
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามเตือนว่า ยังมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมฉับพลันใกล้แม่น้ำลำธารสายเล็กๆ และดินถล่มในพื้นที่ที่ลาดชันหลายจุดในบริเวณที่เต็มไปด้วยภูเขาทางเหนือของประเทศและจังหวัดถั่งหัว ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทางภาคกลาง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในเมืองฮานอยเมื่อเช้าวันอาทิตย์ค่อนข้างสงบเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำซากต้นไม้ล้มออกจากถนนกลางเมืองและย่านที่อยู่อาศัยอื่นๆ
ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ในฮานอย ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดทางภาคเหนือของเวียดนาม กลับมาให้บริการอีกครั้งในวันอาทิตย์ หลังปิดทำการตั้งแต่เช้าวันเสาร์
ทว่า หลายพื้นที่ของเมืองท่าไฮฟอง ยังมีน้ำท่วมสูงราวครึ่งเมตรและไฟฟ้าดับในวันอาทิตย์
ก่อนหน้าขึ้นฝั่งที่เวียดนาม ยางิได้พัดผ่านมณฑลไห่หนานของจีน และประเทศฟิลิปปินส์
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในมณฑลไห่หนานทางภาคใต้ของจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คนจากไต้ฝุ่นยางิ และหนังสือพิมพ์ไห่หนาน เดลี่ของทางการไห่หนาน รายงานโดยอ้างอิงการประเมินเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า พายุลูกนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง อีกทั้งทำให้ไฟฟ้าดับอย่างกว้างขวาง
ขณะที่สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ถูกยางิถล่มนับจากที่พายุลูกนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น ปรับเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตจาก 16 คน เป็น 20 คนเมื่อวันอาทิตย์ และยังมีผู้สูญหายอีก 22 คน
อนึ่ง จากรายงานการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคมระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกส่งผลให้ไต้ฝุ่นในเอเชียขณะนี้ก่อตัวใกล้ชายฝั่งมากขึ้น ก่อตัวรุนแรงในทะเลด้วยความเร็วสูงขึ้น แต่เมื่ออยู่บนบกแล้วก็เคลื่อนตัวช้าลงจึงสร้างความเสียหายได้มากขึ้น
